วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

หุ้นตกเยอะ "ทำไงดี"




       
      หมายเหตุ  บทความนี้เหมาะสำหรับ "ผู้เริ่มต้นลงทุน" ที่เปิดซิงหุ้นตกหนักครั้งแรก หรือยังไหวหวั่นกับราคาเท่านั้น 

 

     วันนี้กระผมขอแชร์ประสบการณ์ตัวเองในเรื่องว่า "หุ้นตกเยอะ ทำไงดี" 

 

     1.  ถามตัวเองว่า คุณคือ นักเก็งกำไร  หรือ นักลงทุนหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน ??


     สำหรับผู้ที่ยังไม่ทราบว่า ตัวเองอยู่เผ่าพันธุ์ใด  ให้ดูหุ้นในพอร์ต  หาก 80%  คือ  ซื้อเพราะคาดหวังว่าราคาจะไปต่อ ไม่เคยดูปัจจัยพื้นฐาน  แสดงว่าคุณคือ นักเก็งกำไร


     หากไม่เข้าเงื่อนไข  ก็คาดว่า คุณเป็นนักลงทุนหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน




     2.  ทำบางอย่างกับพอร์ตของคุณ

    


    ไม่ว่านักเก็งกำไร หรือ ลงทุนปัจจัยพื้นฐาน ท่านมีทางเลือก 2 ทาง  คือ ขายทิ้งทันที หรือ ถือรอ”ลุ้น” ต่อ


     สำหรับนักเก็งกำไร  หากขณะนี้ยังเหลือหุ้นใน port  ทำไงดี ??? กระผมไม่สามารถตอบแทนได้  แต่ขอเล่าประสบการณ์ ในฐานะเป็น"นักเก็งกำไร" มาก่อน

   
    ในอดีต เมื่อหุ้นตกหนัก สัญญาณเทคนิคบอกว่าขาย แต่กระผมกลับตามรอย "เม่า classic"  รุ่นพี่   คือ ถือรอ ”ลุ้น” ต่อ เสี่ยงดูสิว่ามันจะกลับมา และที่สำคัญคือ ทำใจ “Cutloss” ไม่ได้


    สิ่งที่เกิดตามมาคือ หุ้นควบคุมเรา (แทนที่เราควบคุมหุ้น)  เพราะในหัวจะ ”วิตกกังวล” จะลงต่อไหม เด้งกลับหรือเปล่า จนไม่มีสมาธิทำงาน  หงุดหงิด  ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับ


    เมื่อฟ้าไม่เป็นใจ  หุ้นลงต่อ  ความเสียหายของพอร์ตและสุขภาพจิตมากขึ้น  หนักขึ้น  จนถึงที่สุดจะทานทน  กระผมตัดสินใจ  ขายขาดทุนหนัก  จนได้


    ที่แสบที่สุดคือ หลังจากกระผมขาย หุ้นก็เด้งขึ้นทันที พุ่งทะยานและไม่กลับมาจุดที่ผมขายอีกเลย  >__<


    เมื่อย้อนกลับดูตัวเอง  หากกระผม รีบ Cut loss  เสียน้อยดีกว่าเสียมาก  และเมื่อ “หายฝุ่นตลบ”  รอจังหวะซื้อครั้งใหม่ ตัวเลขใน port คงสวยกว่านี้มาก


 










     ส่วนนักลงทุนหุ้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน กระผมเสนอว่า  ถามตัวท่านเองตรงๆ แมนๆ ว่า  กลัวและวิตกกังวล” ว่า หุ้นจะลงต่อหรือไม่

     หากคำตอบคือ "ไม่กลัวและมั่นใจพื้นฐาน" กระผมคารวะ และเชื่อว่าท่านสามารถตัดสินใจได้ดีที่สุดในจุดยืนของท่าน

     แต่หากท่าน  “กลัวและวิตกกังวล”  แสดงว่าด้านมืดกำลังครอบงำ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก มนุษย์ไม่ใช่พระอิฐพระปูน จะได้ไม่มีความรู้สึก 




     แล้วถ้ากลัว จะ "ทำไงดี" ??

     โดยส่วนตัว หากรู้ตัวว่าถูกครอบงำ และ port ติดลบ ไม่เกิน 5%  กระผมเสนอให้ ล้างport ไปเลย  เป็นค่าบูชาครู  และ ซื้อ “สติ” และ “เงินสด” กลับมา


     เพราะหากเด้งกลับมา  ก็เสียหายแค่  5%  และสามารถนำเงินสดไปลงทุนตามแต่ท่านพิจารณา


     แต่หากหุ้นลงต่อ   ความกลัวจะเพิ่มพูนขึ้น  ครอบงำเรามากขึ้นทุกที   จนถึงจุดที่อารมณ์เหนือเหตุผล นั่นแหละคือ จุดอันตรายอย่างแท้จริง

   
    เพราะจุดนั้น มนุษย์มักตัดสินใจ “แปลกๆ” โดยไม่มีเหตุผล ชนิดที่ว่า เมื่อย้อนกลับไปดู  ยังงงว่าทำไปได้ ???


     นั่นคือที่มาของเหตุการณ์
"Routine"(เกิดแล้วเกิดอีก)ในตลาดหุ้น คือ หุ้นลงหนักหลายวันติด  เป็นเวลาที่หุ้นดีราคาน่าสนใจ   ก็ยังจะมีกลุ่มคนขายหุ้นที่ขาดทุนมาหลายวันออกมาเสมอ (กระผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น T^T)  เพราะตัดสินใจจากความกลัวว่าหุ้นจะลงต่อ  กลัวจะเสียหายมากกว่านี้   ทั้งที่คิดด้วยเหตุผล นี้คือเวลาเหมาะสำหรับสะสมหุ้น


     เข้าตำรา "เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย "


     ซึ่งยาแก้  "กลัว" แบบนี้ คือ  ต้องอาศัยประสบการณ์ ผู้มีประสบการณ์จะรู้ว่าความผันผวนเกิดขึ้นด้เสมอ การขึ้นๆลงๆของหุ้นก็เหมือนการขึ้นลงของดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ   ประสบการณ์จะชี้ให้เห็นว่าหากเราควบคุมความ "กลัว" ได้ เมื่อรอบตลาดผ่านไป หุ้นพื้นฐานดี กำไรเติบโตต่อเนื่องและมีภูมิคุ้มกันกิจการมากๆ  ราคาที่ต่ำจะกลับมาสูง(มักสูงกว่าเดิมด้วย) สมอแบบนี้มาตลอด







     


    ทั้งหมดข้างต้น ก็คือ ประสบการณ์ของกระผม เผื่อพี่น้องท่านใดเห็นว่ามีประโยชน์ ก็สามารถนำไปใช้ในภาวะ "ตลาดผันผวนหนัก" แบบนี้ได้

 

     ขอบพระคุณครับ


     นักเก็งกำไรด้วยปัจจัยพื้นฐาน

สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ http://thai-hybridinvestors.blogspot.com/.

2 ความคิดเห็น:

  1. อ่านแล้ว ทำให้คิดวิเคราะห์ เพื่อตัดสินใจได้อย่างเป็นระบบ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากๆๆๆ ค๊าฟ อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจอารมณ์มากขึ้น

    ตอบลบ

Google