วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

หนังสือหุ้นบทที่ 6:วิธีเลือกหุ้นดีและทำกำไร




ในหนังสือ เพาะหุ้นเป็นเห็นผลยั่งยืนมีตัวอย่างน่าสนใจเรื่องหนึ่ง
โดยใช้ข้อมูลตั้งแต่ 2545-2554 แล้วแบ่งหุ้นเป็น 2 กลุ่ม
กลุ่มแรก เป็นหุ้น10ตัว ที่เป็นกิจการยักษ์ใหญ่ กำไรเพิ่มต่อเนื่อง
พบว่า 10ปี ราคาพุ่งกระฉูด เพิ่มเป็น 1,000%

ขณะเดียวกัน มีหุ้น5ตัว ที่กำไรของกิจการไม่เพิ่ม บางตัวขาดทุนด้วยซ้ำ
ผลคือ 10ปี ราคาหุ้น5ตัวนี้แทบไม่ไปไหน

ประเด็นของเรื่องนี้คือ การเลือกหุ้น  ส่งผลต่อผลตอบแทนอย่างรุนแรง
ในปี 2545 หากนาย A ลงทุน 1 แสน ในหุ้น5ตัวจาก10 ตัวที่กำไรจะโตต่อเนื่อง
ทิ้งไว้ 10ปี นายAจะมีเงินอย่างน้อย 2 ล้านบาท
รวยแบบก้าวกระโดด เป็นเศรษฐี มีเงินล้าน
ขณะที่นาย B ลงทุนในหุ้น 5 ตัวที่กำไรไม่เพิ่ม
10 ปีผ่านไป เงินลงทุนของนายB จะเพิ่มขึ้นน้อยมาก



สรุปคือ ผลประกอบการที่แตกต่างราวฟ้ากับเหว มาจากเลือกหุ้นต่างกันนั่นเอง

แล้วเราจะมีวิธีเลือกหุ้นดี หุ้นสร้างเศรษฐี
ที่จะทำกำไรเป็น 100% - 1000% ได้อย่างไร
คำตอบคือ ศึกษาจากหนังสือที่ผู้รู้เขียนไว้
ผมขอเสนอ 5 หนังสือหุ้นดี(ตามความเห็นส่วนตัวผู้เขียน)
ซึ่งเหมาะกับผู้เริ่มต้น เพื่อสามารถหาหุ้นที่สร้างกำไรได้

5 หนังสือบอกวิธีหาหุ้นดีและทำกำไรจากหุ้นสำหรับผู้เริ่มต้น



1.         คัมภีร์หุ้นห่านทองคำ ถอดรหัสหุ้น
งบการเงินคือสิ่งที่บอกว่าหุ้นตัวนี้ ดีหรือไม่ดี
หากท่านเข้าใจงบการเงิน เสมือนท่านมีประวัติผู้สมัครงาน
ผู้จัดการ A มีประวัติงานดีเยี่ยม สร้างแต่ความเจริญรุ่งเรือง
ผู้จัดการB มีประวัติยอดแย่ บริหารเจ๊งตลอด อยู่ที่ไหนขาดทุนที่นั่น
ถ้ามีประวัติ คุณก็ตัดสินใจไม่ยากว่าเลือกคนไหน

ซึ่งงบการเงินคือประวัติของหุ้น ที่ช่วยเราแยกหุ้นดีกับหุ้นไม่ดีได้
คัมภีร์หุ้นห่านทองคำ ถอดรหัสหุ้น
คือหนังสือที่อธิบายวีธีอ่านงบการเงิน แบบให้เข้าใจง่าย
มีภาพประกอบ พร้อมตัวอย่างเพื่อเห็นภาพ
จึงเหมาะกับผู้เริ่มต้นที่อยากรู้วิธีอ่านงบการเงิน
เขียนโดย คุณเทพ รุ่งธนาภิรมย์ ซึ่งเคยเป็นผู้บริหารระดับสูงของธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
และมีประสบการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นสิบปี
จึงมั่นใจได้ว่า ความรู้ในหนังสือมาจากผู้รู้จริง




2.              เพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน
หุ้นดีคือหุ้นของบริษัทที่กำไรโตต่อเนื่อง
จาก 1 ล้าน เป็น 10 เป็น 100 ล้าน
เพราะกำไรเพิ่ม ราคาหุ้นจะพุ่งตามด้วย
หนังสือเพาะหุ้นเป็น เห็นผลยั่งยืน
บอกเล่าคุณสมบัติ 8 ประการของหุ้นกำไรโตต่อเนื่อง
ซึ่งมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะเพิ่ม 1000% เท่าใน 10 ปีข้างหน้า
พร้อมวิธีดูว่าราคาหุ้นถูกหรือแพง และหลักการทำกำไรได้แบบยั่งยืน
เขียนโดย คุณกวี ชูกิจเกษม นักลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานชื่อดัง






3.              One up on wall street เขียนโดย Peter lynch

คุณเคยมีความคิดแบบนี้ไหมครับ
การลงทุนหุ้นเป็นเรื่องของด๊อกเตอร์การเงิน นักวิเคราะห์ นักเศรษฐศาสตร์
ผู้ซึ่งเข้าใจทฤษฎีที่ยาก ซับซ้อน เช่น บัญชี สถิติประยุกต์
วิเคราะห์สินทรัพย์ เศรษฐศาสตร์ การเงินขั้นสูง
จึงไม่เหมาะกับเรา เพราะเกินกำลังคนธรรมดาจะเข้าใจ

แล้วอยู่ๆมีคนบอกว่า คนธรรมดา ปกติ ไม่ต้องมีความรู้สูง
ก็ทำกำไรจากตลาดหุ้นได้มหาศาล
โดยใช้แค่ สามัญสำนึก และความรู้เบื้องต้น
คุณจะเชื่อไหม ??

คุณอาจจะไม่เชื่อ ผมเองก็ไม่เชื่อ
หากคนพูดไม่ได้ชื่อ ปีเตอร์ ลินซ์ (Peter lynch) สุดยอดนักลงทุนระดับโลก
ผู้ซึ่งบริหารกองทุนได้ผลตอบแทนมากที่สุดในประวัติศาสตร์
ได้บอกเล่าไว้ใน One up on wall street

หนังสือเล่มนี้ อ่านสนุก เข้าใจง่าย ไม่มีทฤษฎีซับซ้อน
และบอก "หลักการและเหตุผล" ว่า ทำไม สามัญสำนึก ความรู้เบื้องต้น และการลงทุน
ระยะยาวก็เพียงพอที่ทำให้คนทั่วไป มีผลตอบแทนจากหุ้นในระดับ "น่าพอใจมาก"

หากคุณคือผู้เริ่มลงทุน นี้คือหนังสือที่คุณไม่ควรพลาด




4.     คลีนิคหุ้นมือใหม่ เขียนโดย ภาวิทย์ กลิ่นประทุม

ราคาหุ้นเหมือนน้ำทะเล คือมีขึ้น มีลง สลับกันไป
ซึ่งการวิเคราะห์หุ้นทางเทคนิค(Technical Analysis)   คือการบอกเราว่า
เวลาไหน ราคาหุ้นมีแนวโน้มลงหรือขึ้น และต้องทำอย่างไร จึงได้ผลตอบแทนสูงสุด
หนังสือเล่มนี้ บอกวิธีการใช้ปัจจัยพื้นฐานผสานเทคนิคเบื้องต้น
และแนวทางคร่าวๆของการลงทุนให้สำเร็จ
จุดเด่นคือ ภาษาเข้าใจง่าย อ่านเพลิน ไม่ปวดหัว
เหมาะเป็นประตูบานแรกสู่ตลาดหุ้น เพื่อก้าวไปหาข้อมูลที่ลึกขึ้นครับ



5.     การวิเคราะห์ทางเทคนิค อ. สุรชัย ไชยรังสินันท์
สุดยอด E-book ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิค
สอนตั้งแต่เริ่มต้น จนอยู่รอดในตลาดได้
เนื้อหาดี ข้อมูลแน่น เขียนโดยผู้รู้จริง เหมาะสำหรับสนใจการวิเคราะห์ทางเทคนิค
ที่สำคัญฟรี  Download ได้ที่นี้


สรุป
การเลือกหุ้นที่จะลงทุน มีผลต่อผลตอบแทนอย่างมาก
หากเลือกถูก จะมีกำไร อาจเป็น 100 - 1000%
แต่ถ้าเลือกผิด ชีวิตการลงทุนจะหายนะ
ซึ่งวิธีการเลือกหุ้น ต้องศึกษาจากหนังสือดี เขียนโดยผู้รู้จริง

จะช่วยให้เราหาหุ้นดี ที่ทำกำไรให้เราได้ครับ
Read More »
Google