วันอังคารที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2558

review หนังสือหุ้น : แมงเม่าคลับ แบ่งปันความรู้ในการเล่นหุ้นอย่างเป็นระบบ





บันไดก้าวแรกสู่ การเก็งกำไรอย่างเป็นระบบ


ชื่อหนังสือ :แมงเม่าคลับ
ราคา : 299 บาท
ผู้เขียน : มนสิช จันทนปุ่ม


สิ่งที่ผู้อ่านได้รับ
หนังสือเขียนถึง 2 เรื่องหลัก
1.      หลักการเบื้องต้นของการเก็งกำไรอย่างเป็นระบบ
2.      จิตวิทยาการลงทุน


ข้อ1 หนังสือเขียนถึง ส่วนประกอบ
ที่ทำให้การเก็งกำไรอย่างเป็นระบบ
ชนะตลาดหุ้นและประสบความสำเร็จในระยะยาว
เช่น วิธีทำกำไร การลงทุนให้ถูกสภาวะตลาด
การจำกัดความเสี่ยง การบริหารเงินทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ฯลฯ


โดยหนังสือสื่อสารกับผู้อ่านแบบ ถาม-ตอบ
ซึ่งผู้เขียนจุดประเด็นคำถามที่น่าสนใจ
เช่น ทำอย่างไรจะกำไร
อยากกำไรหนัก ต้องแม่นมากๆไหม
เสี่ยงมาก กำไรมาก จริงหรือ ??


จากนั้น นำทฤษฎีมาอธิบาย
พร้อมยกผลการวิจัยมาแสดง
เพื่อผู้อ่านได้ประจักษ์ว่า
การเก็งกำไรตามระบบและข้อเท็จจริง
ทำให้ไม่ขาดทุน มีกำไร
และประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นได้อย่างไร


ส่วนตัวผมคิดว่า ทฤษฎีในหนังสือ มีประโยชน์ต่อนักลงทุนทุกแนว
เพราะ ไม่ว่าคุณลงทุนแนวไหน เก็งกำไรหรือพื้นฐาน
หากต้องการกำไร ก็ต้องปฎิบัติให้สอดคล้องกับทฤษฎีในหนังสือทั้งสิ้น
เช่น กินคำใหญ่ ไม่เสี่ยงเกินตัว เน้นผลลัพธ์ระยะยาว ฯลฯ
หนังสือเล่มนี้ จึงเป็น คู่มือการทำกำไรในตลาดหุ้น
ซึ่งหากศึกษาให้เข้าใจ ทำตามระบบ
ก็ทำกำไรตามระเบียบได้



ข้อ 2. หนังสือเขียนถึง จิตวิทยาการลงทุน
อันหมายถึง มุมมองและกระบวนการตัดสินใจซื้อขายหุ้น
หนังสือชี้ให้เห็นว่า
ความผิดพลาดฉกรรจ์อย่างหนึ่ง ของนักลงทุนคือ
การพุ่งความสนใจแต่เรื่องเครื่องมือ และการวิเคราะห์หุ้น
แต่ละเลย จิตวิทยา
และกระบวนการตัดสินใจอย่างสิ้นเชิง


ทั้งที่จริง จิตวิทยาอุปมาดังหางเสือเรือ
ซึ่งไม่ว่าเรือจะดี เร็ว แรง แค่ไหน
แต่ถ้าหางเสือบิดเบี้ยว
เรือย่อมพุ่งอย่างสะเปะสะปะ ไม่อาจถึงเป้าหมายได้เลย


เนื้อหายังบอกถึง หลักจิตวิทยาและมุมมองที่ถูกต้อง ในแบบของผู้เขียน
เพื่อให้ผู้อ่านใช้เป็นหลักคิดในตลาดหุ้น
ผมอ่านแล้วก็รู้สึกว่า
มันสวนทางกับความคิดของคนทั่วไปแบบ 180 องศา
และนี่กระมั้งที่เป็นคำตอบว่า
ทำไมคนส่วนใหญ่จึงขาดทุน


โดยเฉพาะข้อที่ว่า นักเก็งกำไรต้องมีมุมมองแบบนักลงทุนระยะยาว
คือ เลิกหวังผลระยะสั้น มองไกล10-20ปี
เป้าหมายมิใช่รวยเร็ว 
แต่ให้ทยอยสะสมความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งดูจะขัดแย้งกับความคิดของนักเก็งกำไรส่วนใหญ่
เนื่องจากการหวังแต่ความร่ำรวยในระยะสั้น
นั่นหมายถึง คุณจดจ่อแต่กำไร แต่ละเลยความเสี่ยง
จึงง่ายที่ความโลภจะเข้าสิง
จนตัดสินใจผิดพลาด และพ่ายแพ้ต่อตลาดหุ้นในที่สุด


โดยภาพรวม สิ่งที่ผู้อ่านได้รับคือ
คำอธิบาย เหตุผล  ที่ว่า
ทำไมนักเก็งกำไรผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ จึงบอกว่า
“100% ของความสำเร็จ มาจากเครื่องมือแค่ 10%
อีก90%เป็นเรื่องของ การบริหารเงินทุนและจิตวิทยา
สะท้อนจากหนังสือแทบไม่ได้พูดเรื่อง indicator ใดๆเลย
ไม่มีเรื่องแท่งเทียน รูปแบบราคา
RSI MACD STO Elliot Wave เหมือนหนังสือเล่มอื่น
แต่มันทะยานไปไกลกว่านั้น
ไปสู่เรื่องที่ไม่ค่อยมีใครเขียนอย่าง การบริหารเงินทุนและจิตวิทยา
อันเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งยวด
ต่อการทำกำไรในระยะยาวครับ


จุดเด่น

จุดเด่นของหนังสือคือ ข้อมูลวิจัยที่แน่นปึ๊ก
ผู้เขียนนำผลวิจัยของ SET
มาแสดงให้เห็นว่า
หากอยากเก็งกำไรให้สำเร็จ ต้องทำอย่างไร
จึงเป็นข้อมูลที่ค่อนข้างน่าเชื่อถือ และใช้ได้จริง
เพราะมันเป็นข้อมูลของ SET มิใช่ของตลาดในต่างประเทศ


ข้อมูลวิจัยนี่แหละ คือจุดเด่นที่แตกต่าง
เพราะหนังสือทั่วไป นำเสนอทฤษฎีการเก็งกำไรยอดนิยม
เช่น เส้นค่าเฉลี่ยตัดขึ้นตัดลง RSI < 30 ให้รอซื้อ
คำถามคือ ทฤษฎีนี้มันใช้ได้กับ SET จริงหรือ ??
และถ้านำมาเก็งกำไรต่อเนื่อง มันจะชนะตลาดจริงหรือเปล่า
ซึ่งหนังสือส่วนใหญ่ ไม่มีข้อมูลนี้เลย
เป็นการยกทฤษฎีแบบลอยๆ แต่ขาดข้อมูลสนับสนุน
นั่นหมายถึง เราก็ไม่รู้จริงๆว่า มัน work ไหม


ซึ่งข้อมูลวิจัยของผู้เขียน สะท้อนความจริงว่า
ข้อเท็จจริง กับ สิ่งที่เราคิด อาจสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง
นั่นหมายถึง สิ่งที่เราชอบทำ และคิดว่าถูกต้อง
จริงๆแล้ว ไม่อาจพาเราสู่ความสำเร็จในระยะยาวได้เลย
เช่น ความคิดที่ว่า รวยมาก ต้องเสี่ยงมาก
แต่ความจริงจากการวิจัยของผู้เขียนคือ
หากลงทุนถูกวิธี แล้วเสี่ยงให้น้อย
ผลตอบแทนระยะยาว กลับชนะการเสี่ยงมากๆ แบบกระจุยกระจาย เป็นต้น


จุดอ่อน(ในความเห็นผม)
หนังสือเล่มนี้ อธิบายทฤษฎีเบื้องต้น
ของการเก็งกำไรอย่างเป็นระบบ
อย่างไรก็ตาม หากจะนำไปใช้ในโลกความจริง
ต้องมีความรู้อย่างน้อย 3 เรื่องคือ

1. ออกแบบระบบ
2. วิธีการทดสอบระบบ
3. การติดตั้งระบบและใช้งานจริง

ซึ่งทั้งหมดข้างต้น ไม่มีเนื้อหาในหนังสือเลย
หนังสือเล่มนี้ จึงไม่ใช่ one stop service ของการลงทุนอย่างเป็นระบบ
หากอยากทำได้จริง ต้องศึกษาจากเล่มอื่นเพิ่มเติมครับ

---------

สรุป
หนังสือแมงเม่าคลับ เขียนและอธิบายว่า
ทำไมการเก็งกำไรอย่างเป็นระบบ
จึงใช้งานในตลาดหุ้นไทยได้มีประสิทธิภาพ
พร้อมข้อมูลผลวิจัย SET อันช่วยให้ผู้อ่านเห็นข้อเท็จจริง
ซึ่งหากใครสนใจเรื่องการเก็งกำไรอย่างเป็นระบบในตลาดหุ้นไทย
นี่เป็นหนังสือเล่มหนึ่งที่ควรอ่านครับ


Read More »

วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

สอนเล่นหุ้น- หลักการเล่นหุ้นเบื้องต้น






มือใหม่เริ่มลงทุน หลักการเล่นหุ้น

สิ่งแรกที่ผู้เริ่มต้น ควรทราบคือ
วิธีเล่นหุ้น หลักๆมี 2 แบบ ซึ่งต่างกัน
ประโยชน์ที่ได้ก็ต่างกันด้ว
เมื่อรู้ว่าต่างอย่างไร คุณก็เลือกที่พอดีตัวกับคุณได้

แบบที่ 1 เล่นหุ้นเหมือนปล่อยเช่าอพาร์ตเมนท์
ซึ่งรายได้หลักคือ ค่าเช่า(เงินสด) 
หากตึกเรา ดีและมีอนาคต
ทำเลดี ติดถนน สะดวกสบาย
มีคนติดต่อเช่าไม่ขาดสาย
อนาคตมีรถไฟฟ้า หรือ ศูนย์การค้า มาเปิดข้างๆ

สามัญสำนึกเราย่อมคิดได้ว่า ถือลืม ไม่มีขาย
เพราะเงินจะไหลเข้ากระเป๋าเราไม่หยุด
แถมของดี มูลค่าในอนาคตย่อมพุ่งสูง
ขายทำไม ? ถือยาวดีกว่า

ถ้าท่านเล่นหุ้นโดยมองเหมือนทำอพาร์ตเมนท์
เขาเรียกว่า ลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐาน
คือหาหุ้นดี มีอนาคต 
กิจการเข้มแข็ง เจ๊งโคตรยาก รายได้กำไรโตไม่หยุด
เมื่อซื้อหุ้น บริษัทจะจ่ายปันผล(เงินสด) ให้เราเรื่อยๆ
แถมระยะยาว ยิ่งบริษัทกำไรมาก ราคาหุ้นและเงินปันผลยิ่งเพิ่มขึ้น
เล่นหุ้นแบบนี้ จึงมักถือแบบ อึด ทน ยาว 
ตราบเท่าที่กิจการดีอยู่

แบบที่2 เล่นหุ้นเหมือนซื้อขายกุหลา
ซึ่ง จังหวะเวลาคือหัวใจสำคัญ
หากคุณคาดว่า อีกไม่นานความต้องการจะพุ่งกระฉูด
จึงซื้อก่อน ขายช่วงที่คนแย่งซื้ออย่างบ้าคลั่ง
ย่อมโก่งราคาได้มาก กำไรเป็น 100-200%
แต่หากเลยนาทีทอง ความต้องการลด ราคาย่อมลดด้วย
ยิ่งช้าจนกุหลาบเหี่ยว อาจถึงต้องขายขาดทุน

หากท่านชอบเล่นหุ้นแบบนี้ 
เขาเรียกว่า เก็งกำไรหุ้น
ซื้อสูง ขายสูงกว่า เพื่อหวัง ส่วนต่างราคา
แต่หากคิดผิด ราคาไม่ขึ้น กลับลดลง 
อุปมาเหมือนคาดการณ์เวลาขายกุหลาบเพี้ยนไป
ก็ต้องรีบขาย เพราะหากช้า ราคายิ่งลด

ทำไมต้องทราบความแตกต่างของหลักการทั้ง 2 แบบ
เพราะหลักการต่างกัน วิธีปฎิบัติและสิ่งที่รู้ ย่อมต่างด้วย
หากเล่นหุ้นเหมือนปล่อยเช่าอพาร์ทเมนต์
สิ่งที่ต้องรู้คือ งบการเงิน 
วิเคราะห์จุดอ่อนจุดแข็งและอนาคตบริษัท
รู้วิธีหามูลค่าที่เหมาะสม
ซื้อแล้ว ก็ถือนาน หลายเดือน หรือ หลายปี
เพราะหากหุ้นเราเหมือนอพาร์ตเมนท์ชั้นยอด ก็ไม่รู้จะขายทำไม

แต่ถ้าเล่นหุ้นเหมือน ซื้อขายกุหลาบ
ท่านต้องเข้าใจเรื่อง กราฟราคา ปริมาณซื้อขาย จิตวิทยาตลาดทุน
Indicator และ Money Management 
ซื้อแล้ว เมื่อราคาถึงเป้าหมาย ก็ขายทำกำไร
แต่หากราคาหุ้นร่วงเกินที่กำหนด ต้องขายทิ้งทันที 
ถือยาวแบบปล่อยเช่าอพาร์ทเมนต์ไม่ได้ เพราะยิ่งถือยิ่งขาดทุน

การเล่นหุ้นก็มี 2 แบบหลัก ดังที่กล่าว
สุดแต่ใจของท่านว่า ชอบแบบไหนครับ
Read More »
Google