วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

สอนเล่นหุ้น - วิธีดู "ผู้บริหารที่ดี" ของคุณกวี ชูกิจเกษม




บทความนี้จะว่าถึง วิธีดูผู้บริหารที่ดี” ครับ


ผู้บริหารที่ดี คือ หัวใจสำคัญในการตัดสินว่า หุ้นตัวนั้นน่าลงทุนในระยะกลางหรือยาวหรือไม่


เพราะผู้บริหารที่ดี จะผลักดันให้กำไรต่อหุ้น (EPS) เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 
ส่งผลให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 


ในทางกลับกัน ผู้บริหารไม่ดี ก็อาจทำให้ บมจ.ที่รุ่งเรือง กลับเป็น รุ่งริ่งได้



มีบทเรียนธุรกิจมากมายเกี่ยวกับความสำคัญของผู้บริหาร ล่าสุด ในปี 2010 นาย Kazuo Inamori  ใช้เวลาเพียง 3 ปี พลิกฟื้น JAL ( Japan airline) จากบมจ.ที่มีการบริหารงานเละตุ้มเป๊ะ จนขาดทุนมโหฬารบานตะเกียงกว่า 200,000 ล้านเยน  


ให้ฟื้นกลับมามีกำไร และกลับคืนสู่ตลาดหุ้นของญี่ปุ่นได้สำเร็จ (JAL ถูกถอดจากตลาดหุ้นก่อนนาย Kazuo เข้ามาบริหาร)


คนเปลี่ยน ทุกอย่างก็เปลี่ยน ผู้บริหารจึงสำคัญต่อ บมจ. อย่างยิ่ง


โดยคุณกวี ชูกิจเกษม นักลงทุนชื่อดัง เคยกล่าวถึง วิธีดู ผู้บริหารที่ดีในงานสัมนาแห่งหนึ่ง มีรายละเอียดดังนี้ 









หลักการของคุณกวีก็คือ ให้ดู ประวัติและผลงาน” ของผู้บริหารเป็นหลัก


เพราะองค์ประกอบอื่น เช่น รูปร่างหน้าตา การศึกษา หรือ คำพูด สุดท้ายก็แค่ "option" 


แต่ประวัติและผลงาน ต่างหาก คือ ประเด็นหลัก และเป็นสิ่งสะท้อนว่า  ผู้บริหารส่งมอบ คุณค่าของตัวเอง ให้กับบมจ.และผู้ถือหุ้นแค่ไหน 


โดยคุณกวีแนะว่า ให้ดูคุณสมบัติ 3 ข้อดังนี้



1. ประวัติบริหาร


พิมพ์ชื่อผู้บริหารใน google แล้วค้นหาประวัติพวกเขา  ดูว่าเคยบริหารที่ไหน กำไรหรือไม่ หรือ เจ็งเป็นส่วนใหญ่ 


ดูด้วยว่ามีประวัติการทุจริต หรือเอาเปรียบผู้ถือหุ้นรายย่อยหรือเปล่า


ผู้บริหารดี ควรมีประวัติที่ "สะอาด" และ "สวยงาม"  อันหมายถึง ปราศจากการทุจริต และ สร้างผลกำไรให้ บมจ. ที่เคยบริหาร หรือกำลังบริหารอยู่มาอย่างต่อเนื่อง 



2. ไม่นำบมจ.เสี่ยงเป็นหนี้


ผู้บริหารดีจะไม่พา บมจ.เสี่ยงเป็นหนี้มาก การเป็นหนี้มากๆแสดงว่า ผู้บริหาร "ขาดประสิทธิภาพอย่างแรง"  ในการหารายได้ให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย หรือมีการจ่ายเงินสดอย่างชุ่ยๆ จนไม่เหลือใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ  เลยต้องกู้หนี้ยืมสินเพื่อหมุนใช้จ่ายในบมจ.  


อีกทั้งยิ่งบมจ.มีหนี้มากเท่าไหร่ กำไรผู้ถือหุ้นยิ่งหายไปมากเท่านั้น


ดูด้วยว่า ตั้งแต่ผู้บริหารคนนี้เข้ามา หนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่มขึ้นเรื่อยๆหรือไม่ หากเพิ่มเรื่อยๆโดยไม่สมเหตุสมผล ก็สงสัยไว้ก่อนว่า เราอาจเจอผู้บริหารที่พาบมจ.เสี่ยงต่อการเป็นหนี้แล้ว


3. ไม่นำบมจ.เสี่ยงต่อการเพิ่มทุน 


ผู้บริหารที่ดีจะไม่พาบมจ.เสี่ยงต่อการ เพิ่มทุนเพราะ "มูลค่า" ของหุ้นจะลดลงและส่งผลเสียต่อนักลงทุนรายย่อยในปัจจุบันทันที เนื่องจากเพิ่มทุนปุ๊บ ราคาหุ้นก็ พุ่งลงปั้บ  ในขณะที่ผลดีจากการเพิ่มทุน เป็นเรื่อง อนาคตที่ไม่รู้แน่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่


พึงระวังผู้บริหารที่มีพฤติกรรมชอบ ฉายโฆษณาเกินจริงเพื่อหาเรื่องเพิ่มทุน เช่น จะขยายงานอย่างก้าวกระโดด จะล้างหนี้สินเพื่อพลิกฟื้นบมจ. หรือบริหารแล้วมีการเพิ่มทุนบ่อยๆ  


ยิ่งหากเพิ่มทุนแล้ว ไม่เกิด "รูปธรรม" อย่างที่คุยโวโอ้อวดไว้  ก็น่าสงสัยว่า ผู้บริหารเอาเงินผู้ถือหุ้นไป "ผลาญเล่น"  มากกว่าจะสร้างประโยชน์ให้ บมจ. 







โดยคุณสมบัติทั้ง 3 ข้อข้างต้น คุณกวีแนะว่า ให้ตรวจสอบย้อนหลังอย่างน้อย 5 ปี  เป็น 10 ปีได้ยิ่งดี เพื่อยืนยันว่า ผู้บริหารคนนี้ ดีจริงและ ดีนาน ครับ

-------------
สรุป

ผู้บริหารที่ดีเป็นส่วนสำคัญ ที่ทำให้กำไรของ บมจ. เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง  โดยวิธีดูผู้บริหารแบบคุณกวี ต้องมีคุณสมบัติอย่างน้อย 3 ข้อ คือ ประวัติบริหารดี  ไม่นำบมจ.เสี่ยงต่อการเป็นหนี้และเพิ่มทุน  ซึ่งควรตรวจสอบคุณสมบัติ 3 ข้อดังกล่าว ย้อนหลังไปไม่น้อยกว่า 5 ปี  เพื่อเป็นการยืนยันว่า ผู้บริหารคนนี้ ดีจริงครับ


นักเก็งกำไรด้วยปัจจัยพื้นฐาน


สนับสนุนโดย เว็บไซต์เพื่อนักการตลาดสายคอนเทนต์ "Content Shifu"
อ่านบทความน่าสนใจ "คู่มือหารูปฟรี ไม่มีลิขสิทธิ์"



สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย. อยู่บนพื้นฐานของงานที่ http://thai-hybridinvestors.blogspot.com/.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google