วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

หุ้น: บทเรียนจากสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน : เข้าใจสหกรณ์ได้ประโยชน์กว่าที่คิด



     สหกรณ์ คือองค์กรที่ตั้งโดยกลุ่มคนที่ความต้องการเหมือนกัน  ความจริงสหกรณ์เป็นเรื่องใกล้ตัว เพราะเราจะพบคนรอบตัวเกี่ยวข้องกับสหกรณ์ใดสหกรณ์หนึ่งเสมอ  เราจึงควรรู้เรื่องของสหกรณ์ไว้บ้าง 

ยิ่งหากพ่อแม่ คู่ครอง ญาต หรือตัวเรามีหุ้นหรือเงินฝากสหกรณ์จำนวนมาก ยิ่งต้องทราบว่า สถานะการเงินของสหกรณ์ยังมั่งคงอยู่ดีพอจะจ่ายปันผลหรือคุ้มครองเงินต้นแก่เราหรือไม่


    สหกรณ์คือ นิติบุคคลตามกฎหมาย จัดตั้งเพื่อแก้ “ปัญหาการเงิน” ของสมาชิก
อันได้แก่ ขาดเงินทุนและได้ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ  ดังนั้นหากท่านเป็นสมาชิกสหกรณ์ใด ก็จะได้ประโยชน์จากสหกรณ์ในแง่มีสิทธิกู้เงิน รับดอกเบี้ยและปันผล โดยปกติ สหกรณ์ต้องนำเงินสดที่ได้มาจากสมาชิกไป ดำเนินการ” บางอย่าง เพราะถ้าสหกรณ์รับเงินแล้วกองทิ้งไว้เฉยๆ ก็จะไม่มีเงินมาจ่ายดอกเบี้ยและปันผลให้กับสมาชิก


     หากอยากเห็นภาพการดำเนินงานของสหกรณ์  ก็คงเปรียบได้กับบริษัทลงทุนอสังหาริมทรัพย์  โดยบริษัทจะระดมเงินสดจากหุ้นส่วนและนำเงินไปลงทุนซื้อ คอนโดเพื่อปล่อยเช่า บริษัทจะได้ผลตอบแทนลงทุนหรือรายได้เข้าบริษัทในรูปของ ค่าเช่ารายเดือน สหกรณ์ก็เช่นเดียวกัน สหกรณ์ระดมเงินสดจากสมาชิกโดยการขายหุ้นหรือรับฝากเงิน เมื่อมีเงินสดก็ปล่อยกู้แก่สมาชิก หรือพูดอีกอย่างคือ สหกรณ์ลงทุนซื้อ สิทธิการรับคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจากสมาชิกนั่นเอง  ดังนั้นรายได้ของสหกรณ์จึงมาจาก เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่สมาชิกชำระให้สหกรณ์ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้


วงจรรายได้ของสหกรณ์


    
     ปัญหาการดำเนินงานของสหกรณ์จะเกิดขึ้น  เมื่อมีการนำเงินสดจำนวนมากไปปล่อยกู้ให้ ลูกหนี้ด้อยคุณภาพ ผู้ซึ่งไม่สามารถจ่ายเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยคืนให้แก่สหกรณ์ได้ เพราะรายได้

เข้าจะลดลงซึ่งเป็นผลเสียต่อสหกรณ์ เนื่องจากรายได้ลด กำไรจะลดลงตาม (กำไร = รายได้ ค่าใช้จ่าย) สมาชิกจึงได้ปันผลน้อยลง ยิ่งรายได้ลดลงจนน้อยกว่าค่าใช้จ่าย สหกรณ์ก็จะขาดทุนและจ่ายปันผลไม่ได้ และอาจเกิดการ "ขาดสภาพคล่อง" อันหมายถึง สหกรณ์ไม่มีเงินใช้จ่ายในกิจการของสหกรณ์ เช่น ค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าสถานที่ เงินเดือนพนักงาน ฯลฯ เพราะเงินที่จ่ายค่าใช้จ่ายเหล่านี้นำมาจากรายได้สหกรณ์นั่นเอง


เมื่อไม่มีเงินไหลเข้า สหกรณ์จะเริ่มเกิดปัญหา


    สาเหตุของการเกิด ลูกหนี้ด้อยคุณภาพอาจเกิดจากความจงใจของผู้บริหารได้ด้วย เพราะผู้บริหารมีผลประโยชน์จากการเกิด ลูกหนี้ด้อยคุณภาพซะเอง ตัวอย่างเช่น ผู้บริหารปล่อยกู้เงินจำนวนมากให้บริษัทที่เขาเองบริหารอยู่ เมื่อได้เงินก็นำไปใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวังจนเงินหมดและไม่สามารถนำเงินต้นมาคืนสหกรณ์ได้  จึงเข้าข่ายพฤติกรรม เอาเงินส่วนรวม ไปละลายส่วนตัวซึ่งก่อให้เกิดผลเสียต่อกิจการสหกรณ์



    จากข้อมูลข้างต้น เราจึงควร ตรวจสุขภาพการเงินของสหกรณ์ที่เราหรือคนรู้จักไปลงทุนเป็นระยะ เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าเงินฝากของเรายังควรอยู่ในสหกรณ์นี้หรือไม่  สิ่งที่ควรรู้คือ  มีหลายสหกรณ์ที่มีปัญหาการเงินจนไม่สามารถจ่ายเงินปันผลและเงินค่าหุ้นคืนแก่สมาชิกได้ เพราะสหกรณ์เอาเงินสดที่มาจากเงินของสมาชิก ไปปล่อยกู้จนเกิด ลูกหนี้ด้อยคุณภาพจำนวนมาก พูดง่ายๆคือ มีแต่เงินออก แต่ไม่มีเงินเข้าสหกรณ์ก็เลยไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปคืนให้สมาชิก ดังนั้น หากเราเห็นว่า สุขภาพการเงินของสหกรณ์อยู่ในภาวะย่ำแย่ เราก็รีบต้องตัดสินใจว่า อยู่หรือไปเพื่อป้องกันการสูญเสียเงินต้นในอนาคตของเรานั่นเองครับ



เมื่อเราเข้าใจว่า ทำไมต้องรู้จักสหกรณ์แล้ว บทความหน้ามาต่อเรื่อง วิธีตรวจสุขภาพการเงินสหกรณ์เบื้องต้นกันครับ



ที่มาข้อมูล http://goo.gl/TRbAZ , http://goo.gl/zUbic

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google