วันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สอนเล่นหุ้น:วิธีค้นหาการลงทุนแบบของคุณเอง

    


    เป็นที่ทราบโดยทั่วว่า การลงทุนตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูง เนื่องจากไม่มีการการันตีว่า คุณจะมีกำไรหรือได้คืนครบในยามที่คุณออกจากตลาดหุ้น  

ดังนั้น การลงทุนหุ้นต้องอาศัย ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง  ถึงจะรักษาต้นทุนและทำกำไร ได้   การลงทุนด้วยความรู้ผิวเผิน  ครึ่งๆกลางๆ  ก็เสมือนนักมวย อ่อนซ้อมที่ไปแลกหมัดกับนักมวยมืออาชีพ ย่อมได้รับ ความเจ็บปวดและเสียหายกลับมาเป็นส่วนมาก



    จากเหตุผลข้างต้น การค้นหา แนวทางการลงทุนของตัวคุณเอง คือสิ่งจำเป็นลำดับต้นๆของนักลงทุน  เพราะแนวทางแต่ละแบบไม่เหมือนกัน
จึงต้องฝึกฝนทักษะและความชำนาญที่ต่างกันด้วย  เปรียบเหมือนนักมวยที่ต้องเลือกว่า จะฝึก หมัดเด็ดแบบไหน   จะหมัดตรง หมัดฮุค อัปเปอร์คัต ก็ว่ากันไป  โดยเมื่อเลือกแล้ว ก็ต้องฝึกฝนในแนวทางนั้นให้ชำนาญเชี่ยวชาญ ถึงจะเอาตัวรอดในตลาดหุ้นได้








    ซึ่ง วิธีการค้นหาแนวทางการลงทุนของตัวเอง ในแบบของกระผม มีอยู่ 2 ขั้นตอนดังนี้


1.        ลงสนามจริง


    ไม่ต้องไหว้ครูหรือพิร่ำพิไรกันให้มากความ  ขอให้ ลงสนามจริงกันเลยครับ


    โดยพี่ณัฐวัฒน์ อ้นรัตน์  นักกลยุทธหุ้นชั้นนำของเมืองไทย บอกว่า แนวทางลงทุนหลักๆ มีอยู่แค่  2 แบบดังนี้


     1.นักเก็งกำไร   2.  นักลงทุนระยะยาว


    ให้เลือกมาสักอย่างหนึ่ง แล้วเริ่ม ขึ้นชกได้เลย


     สาเหตุที่ต้อง ขึ้นชกทันที เพราะมีแต่ สังเวียนจริงเท่านั้น ที่จะทำให้รู้ว่า เราเหมาะกับการลงทุนแบบที่เลือกมาหรือไม่  โดย  สังเวียนจริงจะทำให้เราพบกับ ความโลภ ความกลัว และความทุกข์ ”  ซึ่งไม่สามารถสัมผัสได้จากการลงทุนใน พอร์ตจำลอง


     โดย ความโลภ&ความกลัวคือ อารมณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อเราซื้อขายกันจริงๆ  ซึ่ง ความโลภ&ความกลัวนี้แหละ คือ บิดาแห่งความฉิบหายของนักลงทุน  ที่ทำให้ขาดทุนกันมานักต่อนัก


    เพราะ ความโลภ&ความกลัวส่งผลให้เรา ทำผิดพลาดในการลงทุนตลอด ตัวอย่างเช่น โลภจนหุ้นซื้อหุ้นที่แพงสุดขีด หรือ กลัวจนไม่ยอมซื้อเมื่อราคาหุ้นลงต่ำมาก เป็นต้น จนทำให้กำไรของเราต่ำลงหรืออาจขาดทุนไปเลย


    ส่วนความทุกข์ คือ สิ่งที่ทำให้เราไม่มีความสุขในการลงทุน  สาเหตุมักจะเกิดจากการลงทุนที่ ไม่ถูกจริต เพราะไม่มีใครมีความสุข หากต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเอง  การลงสนามจริงจะทำให้รู้ว่า แนวทางที่เราเลือกนั้น มันเหมาะสมกับเราหรือไม่ ซึ่งผมมีเพื่อนนักลงทุนหลายท่าน ที่ค้นพบตัวตนว่า แนวทางการลงทุนที่ใช่และมีความสุข แตกต่างกับตอนที่เริ่มลงทุนอย่างสิ้นเชิง


    โดยบางท่านเห็นตัวอย่างดีๆ ของนักลงทุนระยะยาวที่ซึ่งทำกำไรมากมาย ก็เลยอยากจะเป็นกับเขาบ้าง แต่เมื่อเริ่มลงทุนจริงๆ กลับไม่สามารถทำสิ่งที่เป็น หัวใจของการลงทุนระยะยาว  นั่นคือ  การไม่สนใจต่อความผันผวนของราคาหุ้นในระยะสั้น ได้ และเริ่มรู้ตัวว่ามีความสุขในแบบ มีหุ้นในขาขึ้น มีเงินสดในขาลงมากกว่า จนกลายเป็นนักเก็งกำไรจนได้


    ขณะที่บางท่านเริ่มจากการเป็น นักเก็งกำไรแต่ลงทุนไปสักพัก ก็รู้ตัวว่า เบื่อและไม่มีความสุขที่ต้อง คาดเดาและซื้อขายหุ้นทุกวัน เขารู้สึกมีความสุขที่จะลงทุนในหุ้นพื้นฐานดี และถือไปเรื่อยๆ ตราบที่บริษัทฯยังเติบโตแข็งแกร่งอยู่ จึงพัฒนามาเป็น นักลงทุนระยะยาว ในที่สุด


    ซึ่งการจะ รู้ใจตัวเอง" และ รู้ว่าแนวทางที่เราเลือก สามารถจัดการกับความโลภและความกลัวได้หรือไม่ ต้องเกิดจากการเล่นจริง เจ็บจริง ไม่อิงสตันท์ เท่านั้นครับ


2.        บริหารเงินทุนไม่ให้เจ๊ง


    เมื่อเริ่ม ลงทุนจริงแล้ว ขั้นตอนที่ต้องเริ่มพร้อมกันเลยทันที ก็คือ บริหารเงินทุนไม่ให้เจ๊งครับ


    โดยนิยามของ บริหารเงินทุนไม่ให้เจ๊งก็คือ  ทำให้ เงินทุนมีมูลค่าไม่น้อยกว่าเดิม หรือ ลดลงให้น้อยที่สุด


    สาเหตุที่ต้องเริ่มพร้อมกันทันที เพราะข้อเสียของการลงสนามจริง คือ คุณอาจจะ เจ๊งจริงได้ด้วย เนื่องจากขณะอยู่ในช่วงค้นหาแนวทาง ก็ย่อมมีความผิดพลาดหรือ ลองผิดลองถูกเป็นธรรมดา  ปัญหาคือความผิดพลาดบางครั้ง อาจทำให้คุณ ขาดทุนเละเทะอ่วมอรทัยได้เลย ตัวอย่างเช่น ซื้อหุ้นพื้นฐานดีแต่ ราคาแพงสุดขีดหรือเก็งกำไรในหุ้นเล็กที่ราคาพุ่งกระฉูด  แล้วเวลาผ่านไปสักพัก  คุณเกิด ซวยสุดๆที่ราคาหุ้น 2 ชนิดข้างต้นลดลงอย่างหนัก และไม่กลับไปสู่จุดเดิมอีกเลย  ดังนั้น การบริหารเงินทุน จึงต้องควบคู่กันไปในระหว่างค้นหาแนวทางเสมอ เพื่อป้องกันสูญเสียเงินทุนมากเกินไป






    โดยกลยุทธ์ บริหารเงินทุนที่น่าสนใจก็คือ แบ่งเงินทุนออกมา 10-15% จากนั้นนำส่วนที่แบ่งมาลองผิดลองถูกในตลาดหุ้นได้เต็มที่  โดยกฎคือ จะไม่มีการเพิ่มเงินทุนเข้าสู่ตลาดหุ้น จนกว่าจะพบแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมกับตัวเราแล้วเท่านั้น   


    ซึ่งข้อดีของกลยุทธ์ข้างต้นคือ คุณสามารถ เก็บเกี่ยวประสบการณ์และ ลองผิดลองถูกได้อย่างเต็มที่ เพราะหากคุณซวยเกิดความเสียหายในระดับรุนแรงมากๆ ก็จะเสียหายเฉพาะแค่ 10 -15% ที่แบ่งมาลงทุนเท่านั้น กลยุทธ์นี้ทำให้คุณค้นหาแนวทางการลงทุนจากสนามจริงได้ โดยไม่เจ็บตัวมากเกินไปครับ


--------------------------

   สรุปคือ การค้นหาแนวทางการลงทุนของตัวคุณเอง คือ ด่านแรกของนักลงทุนทุกท่าน เพราะต้องผ่านด่านนี้ก่อน จึงสามารถ ฝึกฝีมือเพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในทางที่เลือกแล้วได้  การรู้ว่าแนวทางไหนเหมาะกับเรา ย่อมเกิดจากการผ่าน สนามจริงเท่านั้น เพราะจะยืนยันว่าสามารถใช้ในตลาดหุ้นได้จริง  ซึ่งขณะอยู่ในช่วง ค้นหาแนวทางควรมีการ บริหารต้นทุนด้วย เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินทุนมากจนเกินไปครับ

    ขอบพระคุณครับ

    นักเก็งกำไรด้วยปัจจัยพื้นฐาน
สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.
อยู่บนพื้นฐานของงานที่ http://thai-hybridinvestors.blogspot.com/.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google