วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

วิธีหาเงินทุนทำธุรกิจแบบคนไม่มีเงิน



ปัญหาอย่างหนึ่งของคนอยากทำธุรกิจคือไม่มีเงินทุน
จึงไม่ได้เริ่มเสียที ชีวิตเลยติดหล่มไม่ไปไหน
ความจริงคือ ทุนไม่ได้หมายถึง เงินเท่านั้น
แม้ไม่มีเงินมาต่อเงิน แต่ก็มีอย่างอื่นที่เราสามารถใช้เป็นทุนเพื่อหาเงินเพิ่มได้
 
ผมได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับการทำธุรกิจของชาวจีน
ซึ่งบทหนึ่งเขียนเรื่อง วิธีหาเงินทุนแบบคนไม่มีเงิน
การสร้างตัวของคนจีนในไทยเป็นตัวอย่างที่ดีมากของประเด็นนี้
พวกเขาเดินทางจากจีนสู่ไทยสมัยรัชการที่ 5
มาเสื่อผืนหมอนใบ ไม่มีเงิน ไม่มีเส้นสาย บางคนไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน
ส่วนใหญ่มาเป็นลูกจ้าง ใช้แรงงานแลกเงิน
แต่เดี๋ยวนี้กลับกัน คนไทยกลายเป็นลูกจ้าง
คนจีนเป็นเจ้าของธุรกิจและมหาเศรษฐี
 
คำถามคือ ตอนคนจีนตัวเปล่าเล่าเปลือย
ใช้วิธีใดในการหาเงินทุนมาทำธุรกิจ

เคล็ดลับมี 3 ข้อคือ แรงงาน เวลา และ ประหยัด

(1)แรงงาน : แรงงานคือทุนอย่างหนึ่งเพราะนำแลกเป็นเงินได้
ตอนคนจีนเหยียบแผ่นดินไทย ไม่มีทุนก็ขายแรงงานแลกเงิน เช่น แบกกระสอบ ยกของ ทำงานในร้าน ฯลฯ
ไม่เกี่ยงงาน หนักเอาเบาสู้ ได้เงินมาก็ใช้อย่างมัธยัสถ์
เก็บออมสะสมเป็นเงินทุน

สำหรับคนมีปริญญา การใช้แรงงานดูเป็นความคิดที่ไม่เข้าท่า
แต่ในชีวิตจริง จะมีกี่คนที่ในเวลาว่าง ได้ทำงานที่ตรงสเป็คทุกอย่าง 
หากคุณมีเวลาแล้วไม่รู้จะทำอะไรจริงๆ
อาจเริ่มต้นด้วยการใช้แรงงานในร้านซึ่งทำสิ่งที่คุณสนใจ
เช่น เสาร์อาทิตย์ สมัครเป็นเด็กฝึกงานในอู่ซ่อมรถ
ร้านกาแฟ ร้านของของที่จตุจักร
เพราะใช่ว่าจะทำงานแบบนี้ตลอดไปเมื่อไหร่
พออะไรดีกว่าเข้ามา ค่อยขยับขยายก็ได้
อีกทั้งงานพื้นฐานก็ให้อะไรมากกว่าที่คิด

ดร.กฤษนะ กฤตมโนรต หนึ่งในนักขายประกันที่เก่งที่สุดในไทย
สมัยหนุ่มกระทง เคยเป็นเด็กติดรถบรรทุกของร้านขายยา เ
ขาสังเกตุจนรู้ปรุโปร่งว่า
ร้านสั่งสินค้าจากที่ไหนถึงมีต้นทุนถูก ลูกค้าชอบอะไร

บริหารสต๊อคอย่างไรไม่ให้ทุนจม
ซึ่งเรื่องแบบนี้ไม่มีสอนในมหาลัย 
คุณจะรู้ได้จากการคลุกคลีหน้างานเท่านั้น


(2)เวลา คนจีนสมัยก่อนขยันมาก ตื่นก่อนนอนหลัง
ระหว่างวันทำงานเป็นระวิง เพราะพวกเขาคิดว่า เวลานั้นมีค่า
หากใช้ทำงานก็มีโอกาสได้เงิน จึงทำโน้นทำนี่ตลอดเวลา
เล็กน้อยหนักเบาเอาทั้งนั้น อย่างน้อยก็ได้ประสบการณ์
ดีกว่านั่งๆนอนๆอยู่เฉย ผลาญเวลาอย่างสูญเปล่า

การใช้เวลาหาตังค์มาเป็นทุนมีหลายวิธี
แต่ที่ง่ายที่สุดคือ ใช้เวลากับงานที่ทำอยู่แล้ว
เช่น ขยันทำ โอทีให้มากขึ้น 
หรือขนขวายหาความรู้เพิ่มเพื่อความก้าวหน้า
เพราะหากได้เลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนย่อมมากขึ้น
หนทางสู่การมีเงินทุนก็เปิดกว้าง
จำไว้ว่า ไม่มีคำว่าขี้เกียจในหมู่คนรวย จงใช้เวลาให้คุ้มค่าเสมอ


(3)ประหยัด คนจีนขึ้นชื่อเรื่องความมัธยัสถ์ บาทเดียวไม่กระเด็น
สาเหตุที่พวกเขากินข้าวต้ม เพราะในปริมาณข้าวสารเท่ากัน
หุงข้าวสวยจะหมดเร็วกว่าทำข้าวต้ม
การนำข้าวผสมน้ำช่วยลดค่าใช้จ่ายได้
 
บางคนอาจนินทาว่า "ขี้งก" แต่เรื่องนี้มีสาเหตุ
สมัยร5ไม่มีคำว่าเจ้าสัวในหมู่คนจีนอพยพ เพราะเสื่อผืนหมอนใบกันทั้งนั้น
ต้องใช้แรงงานอาบเหงื่อต่างน้ำแลกเงินมา
หากใช้จ่ายสิ้นเปลือง ก็ไม่มีเหลือเก็บมาทำทุน
คนจีนรู้ดีว่า เงินเก็บเพิ่มขึ้นมาจาก 2 ทาง คือ เพิ่มรายได้ และ ลดรายจ่าย สมัยนี้อิทธิพลของสื่อทำให้ฮิตแต่เพิ่มรายได้
ความจริงคือ ไม่มีอะไรได้มาฟรี อยากได้เพิ่มต้องลงทุน
บ่อยครั้งการลงทุนไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะขาดประสบการณ์
สถานการณ์เลยยิ่งแย่กว่าเดิม

ขณะที่ลดรายจ่ายทำง่ายกว่า
เพราะไม่ต้องลงทุน เงินอยู่ในมือแล้ว

อยู่ที่ตัดสินใจว่าจะใช้หรือไม่เท่านั้น
หลักคิดอีกข้อในช่วงสร้างตัวของคนจีนคือ 
 "อะไรที่ไม่ซื้อแล้วไม่ตาย เก็บเป็นเงินทุนได้ทั้งสิ้น"
คนที่อยากมีเงินทุนก็ใช้หลักการนี้ได้เช่นกัน
ลองสำรวจ ดูว่า อะไรที่ไม่จ่ายก็มีชีวิตอยู่ได้
เช่น กาแฟแก้วละ 60 เสื้อผ้า ท่องเที่ยว เป็นต้น
เปลี่ยนรายจ่ายเหล่านี้มารอมริบเป็นเงินทุนได้ไหม

แนวคิดนี้อาจดูสุดโต่งในยุคปัจจุบัน แต่มันเป็นไปได้ในโลกความจริง
ถ้ายอมอดเปรี้ยวกินหวาน จ่ายแต่สิ่งจำเป็นเป็นเวลา1 ปี
คุณจะพบว่ามีเงินออมมากขึ้นชนิดที่ตัวเองยังประหลาดใจ
จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุนมาทำธุรกิจอีกต่อไปครับ

ทั้งหมดก็เป็นเคล็บลับหาเงินทุนแบบคนไม่มีเงิน
หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณครับ
ท็อป

สนับสนุนความรู้ - เรียน Adwords เชิงกลยุทธ์ By Search Monopoly SearchMonopoly

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google