วันพฤหัสบดีที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2557

5 วิธีเปลี่ยนนิสัยไม่ดีเพื่อพัฒนาตนเองสู่ความสำเร็จ


หากอยากกินมะม่วง คุณต้องปลูกต้นมะม่วง ฉันใด

หากอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องปลูกนิสัยแห่งความสำเร็จ เช่น ขยัน อดทน สร้างสรรค์ ให้งอกงาม ฉันนั้น

อยางไรก็ตาม มีสักกี่คน ที่เกิดมามีแต่นิสัยแห่งความสำเร็จอย่างเดียว


ในโลกแห่งความจริง คนย่อมมีทั้งนิสัยดีและไม่ดี

ถ้าเปรียบชีวิตเหมือนแก้วเปล่า นิสัยดีคือน้ำดื่มใสเย็น นิสัยเสียคือน้ำเน่าสีคล้ำ

หากเรามีนิสัยเสียมากกว่านิสัยดีมาก ก็เหมือนแก้วที่มีแต่น้ำเน่าอยู่เต็มเปี่ยม

เป็นชีวิตที่มีแต่สิ่งดำมืด หาประโยชน์มิได้

ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือ ลดละเลิก นิสัยไม่ดีให้มากที่สุด


ปัญหาคือนิสัยเสียมักเกาะติดเราเหมือนเงาตามตัว

แม้รู้ว่านิสัยที่ไม่ดี แต่การสลัดมันออกไป ก็ไม่ง่าย

ผมเองก็เคยประสบปัญหานี้มาก่อน

ในอดีต ผมตั้งใจเปลี่ยนนิสัยจากฟุ่มเฟือยเป็นประหยัด เพื่อมีเงินเหลือมาลงทุน

แต่ผลคือผมล้มเหลวในการเปลี่ยนนิสัยแบบไม่เป็นท่า



ผมจีงตั้งคำถามกับตัวเองว่า ทำไมการเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ จึงยากเย็นนัก

เพื่อแก้ปัญหา ผมหาข้อมูลเรื่องจิตวิทยา สมอง และจิตใต้สำนึก 



ในที่สุดผมก็รู้ หลักการและวิธีการ" บอกลานิสัยไม่ดีแบบถาวร



ผมเหมือนตายแล้วเกิดเป็นคนใหม่ นิสัยดีกว่าเดิม



จึงขออนุญาตแชร์ในบทนี้



ซึ่งผมเชื่อสุดหัวใจว่า หากอ่านบทนี้จบ

 
คุณเองก็สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยไม่ดีได้เช่นกัน



**นิสัยไม่ดีมาจากไหน**


นิสัยไม่ดีเกิดขึ้นอย่างไร ต้องเข้าใจ2เรื่อง 


คือ 1.จิตวิทยา 2.การกระทำ


เรื่องแรกจิตวิทยา จิตคนเรามี2ระดับคือจิตสำนึกและจิตใต้สำนึก


จิตสำนึกทำหน้าที่ รู้ตัวและคิดเช่นเจอทางแยก 


จิตสำนึกทำให้รู้ตัวว่าถึงแยกและคิดว่าจะไปซ้ายหรือขวา 


หรือเมื่อเข้าศูนย์อาหาร จิตสำนึกทำให้รู้ว่าอยู่ร้านข้า


และคิดว่าสั่งข้าวหรือก๋วยเตี๋ย



ส่วนจิตใต้สำนึกเปรียบเสมือนฮาร์ดดิสก์ที่เก็บความทรงจำและความรู้สึก 


เช่นความทรงจำดีหรือแย่กับบางสิ่ง 


ความรู้สึกสุขหรือทุกข์ที่เกิดจากประสบการณ์ชีวิต ฯลฯ 


ซึ่งข้อมูลในจิตใต้สำนึกสำคัญมา 


เพราะคนนำสิ่งนี้แสดงออกเป็นการกระทำ 


เมื่อเจอสิ่งรอบตัว จิตสำนึกจะทำตัวเป็นSearch engine 

ไปค้นข้อมูลในจิตใต้สำนึก และนำข้อมูลนั้นมาปฎิบัติ 








ตัวอย่างเช่น เรามีข้อมูลในจิตใต้สำนึกเกี่ยวกับเนื้อว่า เหม็น คาว ไม่อร่อย 

เมื่อเจอเนื้อ เราก็ไม่กิน เพราะข้อมูลในจิตใต้สำนึกสั่งให้ทำแบบนั้น




ข้อมูลในจิตใต้สำนึกนี้แหละคือสาเหตุของนิสัยไม่ดีของเรา 

เพราะหากมีแต่ข้อมูลไม่ดี เช่น ฟุ่มเฟือย กินเก่ง ขี้เกียจ ตื่นสาย โมโหร้าย


ข้อมูลเหล่านี้จะถูกจิตสำนึกเรียกมาปฎิบัติ นานเข้าก็เคยชิน เกิดเป็นนิสัย


กลายเป็นโซ่ตรวนรั้งเราให้จมปลักอยู่กับสิ่งแย่ๆ


ชีวิตจึงไม่ก้าวหน้า เป็นทุกข์ ขาดแคลนสุข




**วิธีเปลี่ยนแปลงข้อมูลจิตใต้สำนึก**



จิตใต้สำนึกเก็บข้อมูลเหมือนฮาร์ดดิสก์ วิธีการเปลี่ยนข้อมูลก็เหมือนกั


นั่นคือ ลบไฟล์ขยะทิ้ง เขียนข้อมูลใหม่แทน

ต่อไปนี้คือ 5 วีธีเปลี่ยนข้อมูลจิตใต้สำนึกที่ผมใช้ได้ผล 


1. หาเวลา 1 ชั่วโมงก่อนนอน


เพราะก่อนนอน เป็นเวลาที่คลื่นสมองต่ำ 


คือช่วงที่จิตใต้สำนึกบันทึกข้อมูลใหม่ง่าย



2. 30 นาทีแรก ทำสิ่งทีมี่สุข เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง


ฟังเพลง เหยียดแข้งขา ผ่อนคลาย 


เพื่อพร้อมต่อการใส่ สิ่งดีในจิตใต้สำนึก 


ต้องล้างความเครียด วิตก กังวล ขยะความคิดที่ตกค้างมาทั้งวันก่อน 



3. 30 นาทีต่อมา หลับตา จินตนาการเห็นสิ่งที่คุณอยากเป็นในแบบ พบ ทำ สุข

 
ตัวอย่างเช่น อยากเลิกใช้เงินเก่ง จินตนาการว่าเจอสิ่งฟุ่มเฟือย(พบ) 


คุณไม่ซื้อและมีเงินเหลือ(ทำ) แล้วเกิดสุข (สุข) 


คิดแบบนี้อย่างน้อย 10 ครั้งต่อวัน จากนั้นเข้านอน



เคล็บลับคือ คุณต้อง รู้สึกสุขจริงๆ ไม่ใช่จินตนาการแต่รู้สึกเฉยๆ


จงรู้สึกเป็นสุขเหมือนช่วงเวลาดีที่สุดของชีวิต


เช่นเอ็นทรานติด สมหวังในรัก เลื่อนตำแหน่ง พบเจอคนรักที่ห่างกันนาน


เพราะความรู้สึกสุขจะฝังลงจิตใต้สำนึก 


ในชีวิตจริง เมื่อเจอของฟุ่มเฟือย

 
จิตสำนึกจะไปค้นเจอข้อมูลว่า ไม่ซื้อแล้วสุข


มนุษย์มักทำสิ่งที่ทำให้เกิดสุขเสมอ 


เราจึงมีแนวโน้มจะไม่ซื้อโดยอัตโนมัติ


นี่แหละ คือการเปลี่ยนนิสัยไม่ดีของคุณ



4. เมื่อตื่น ตั้งเป้าว่า วันนี้จะทำบางสิ่ง 


ที่สอดคล้องกับการเป็นคนใหม่ที่เปลี่ยนนิสัยแล้ว แล้วเขียนให้ชัดเจน 


เช่น อยากใช้จ่ายประหยัด จงเขียนว่า "วันนี้ฉันจะลดกาแฟ 1 แก้ว 


ฉันประหยัดเงิน 30 บาท"



5. ทำสิ่งที่เขียนไว้ เมื่อทำสำเร็จ พูดกับตัวเองในใจว่า


ฉันเป็นคนใหม่ ฉันมีความสุขแล้วรู้สึกสุขจริงๆ


เหมือนที่คิดตอนก่อนนอน 


เมื่อทำแบบนี้ครบ 30 วัน คุณจะมีนิสัยใหม่ 



โดยคุณสามารถใช้วีธีนี้เปลี่ยนทุกนิสัยที่คุณต้องการ 


เช่น กินเก่ง ตื่นสาย ขี้เกียจ อะไรก็ได้ที่อยากให้ดีขึ้น 


ดัดแปลงแค่รายละเอียด วิธีการเหมือนเดิมครับ



**เคล็บลับ 2 ประการในการเปลี่ยนนิสัย**






1. ทำทีละอย่าง

หากคุณมีนิสัยเสีย 10 อย่าง จงเปลี่ยนทีละหนึ่ง
 
หากคุณเปลี่ยนนิสัยเสีย 10 อย่างพร้อมกัน 


นั่นคือหนทางสมบูรณ์แบบสู่ความล้มเหลว


ตอนเริ่มต้นเปลี่ยนนิสัย ผมตั้งใจเปลี่ยน 5 นิสัยเสียพร้อมกัน

 
คือ ฟุ่มเฟือย ตื่นสาย ขี้เกียจ สมาธิสั้น ชอบกินอาหารขยะ

 
สิ่งที่เกิดคือ เวลาไม่พอสำหรับทำทุกสิ่ง 


เมื่อเราพยายามยัดเยียดทำทุกอย่างในเวลาจำกัด 


ก็เหมือนยัดหนังสือทั้งห้องสมุดใส่กล่องเล็กๆ ผลคือคุณจะล้มเหลว


เป็นการเพิ่มความซับซ้อนและเครียดโดยไม่จำเป็น 


สุดท้ายผมยกธงขาว ยอมแพ้โดยไม่เปลี่ยนนิสัยเสียแม้แต่อย่างเดียว



ผมเปลี่ยนวิธีใหม่ โดยจดจ่อกับการเปลี่ยนนิสัยเสียทีละอย่าง 


เริ่มจาก เลิกฟุ่มเฟือยเพราะจะเหลือเงินมาลงทุน 


ขยับใกล้เป้าหมายชีวิตคือเป็นนักลงทุนมากขึ้น 


ทำทีละอย่างทำให้พุ่งสมาธิทำตามแผนได้เต็มที่ 


ไม่มีหลายสิ่งมากวนใจ ปฎิบัติมีประสิทธิภาพมากขึ้น


ในที่สุด ผ่านไป 7 เดือน ผมเลิกฟุ่มเฟือยถาวร 


เป็นคนประหยัด อดออม มีเงินเหลือ


ผมลงมือเปลี่ยนนิสัยเสียที่เหลือ ทีละอย่าง 


จนผมเลิกนิสัยขี้เกียจ กับ สมาธิสั้นได้ถาวร 


ซึ่งคงไม่มีวันเกิดขึ้น หากยังฝืนเปลี่ยนนิสัยไม่ดีหลายอย่างพร้อมกัน



ขอให้เชื่อผมในเรื่องนี้ เพราะผมมีประสบการณ์มาแล้วหลายครั้ง 


ถ้าเปลี่ยนนิสัยทีละอย่าง โอกาสสำเร็จจะมีถึง 60-80 % 

ซึ่งดีกว่าเปลี่ยนนิสัยเสีย 10 อย่างพร้อมกัน แล้วล้มเหลว 100 % เป็นไหนๆ 





2. ทำทีละน้อย





เคล็บลับของการเริ่มเปลี่ยนนิสัยคือ ทำให้น้อยกว่าที่คิด 




เรย์มอนด์ แอรอน เป็นชาวแคนนาดา

คือผู้เชี่ยวชาญการอบรม เรื่องตั้งเป้าหมายและเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่า


และเป็นผู้ปลูกฝังนิสัยเศรษฐีพันล้านให้ โรเบิรต์ คิโยซากิ



เขาสังเกตุว่าคนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลวในการเปลี่ยนแปลง

 
มักทำแบบ เปลี่ยนแปลงฉับพลัน


ตัวอย่างเช่น ตั้งเป้ามีเงินเก็บเดือนละ 1 หมื่น 


จากไม่เคยเก็บเงินเลย ก็เก็บเดือนละ 1 หมื่นทันที


หรือจะลดน้ำหนักเดือนละ 5 โล ก็จะลด 5 โลทันที


คนทำแบบนี้ 95% จะล้มเหลว เพราะเป็นการเปลี่ยนแบบหักดิบ 


ทำยาก โอกาสล้มเหลวสูง



เรยมอนด์จึงบอกผู้อบรมว่า จงเริ่มให้น้อยกว่าเป้าหมาย


เช่น ตั้งเป้ามีเงินเกิบเดือนละ 10,000 ให้เริ่มเก็บแค่ 2,000

 
เมื่อเก็บเงิน 2,000 ได้ต่อเนื่องจนนิสัย 


ให้ขยับเป็น 4,000 6,000 จนครบ 10,000


เมื่อใช้วิธีนี้ ผลคือ 80% ของผู้อบรม เก็บเงินได้ 10,000 จริงๆ



การตั้งเป้าหมายทำทีละน้อย มีข้อดีหลายอย่าง


เพราะยิ่งน้อยเท่าไหร่ ยิ่งสำเร็จง่ายเท่านั้น


มีกำลังใจก้าวไปพิชิตเป้าหมายที่สูงกว่า


จริงอยู่ความสำเร็จเล็กน้อยอาจไม่น่าพอใจ


แต่จะเป็นแบบนี้แค่ช่วงแรกเท่านั้น


ถ้าคุณเริ่มสะสมความสำเร็จเล็กๆ


สุดท้ายมันจะรวมเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่


และคุณจะทะยานสู่เป้าหมาย คือเปลี่ยนนิสัยสำเร็จในที่สุด 




**รวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน**


ผมขอสรุปด้วยประสบการณ์ผมเอง เพื่อให้ท่านเห็นภาพและนำใช้งานได้จริง


ผมเลือกนิสัย"ฟุ่มเฟือย" มาเปลี่ยน

โดยเป้าหมายใหญ่คือ ออมเดินละ 5000 บาท

แต่ผมเริ่มให้น้อย คือ ตั้งเป้าลดกาแฟวันละแก้ว(จากเดิมกินวันละ 2)

ซึ่งจะประหยัดเดือนละ 600 บาท



ก่อนเข้านอน ผมก็จินตนาการว่า เจอกาแฟ ไม่กิน สุขใจ

ตื่นเช้าเขียนเป็นตัวอักษร และกินกาแฟวันละแก้ว

ดูเหมือนไม่มีอะไรใช่ไหมครับ ก็แค่ลดกาแฟ มันง่ายยิ่งกว่าปอกกล้วย

แต่ผมล้มเหลวครับ ผมกลับไปกิน 2 แก้ว หลังทำได้แค่ 7 วันเท่านั้น



ประสบการณ์ทำให้ผมซึ้งคำว่า "ทำจากเล็กไปใหญ่"

เพราะถ้าเล็กยังไม่สำเร็จ จะทำการใหญ่ได้อย่างไร

ผมเริ่มใหม่ ครั้งนี้ทำได้ 20 วัน แล้วล้มอีก

แต่ครั้งนี้ มีบางอย่างเกิดขึ้น

ความรู้สึกไม่กินแล้วสุข เริ่มผุดในหัวอัตโนมัติ เหมือนในทฤษฎี

ผมเกิดกำลังใจว่า ถูกทางแล้ว



ครั้งที่ 3 ผมทำได้ 30 วัน

และครั้งที่ 4 ผมก็เลิกกินกาแฟวันละ 2 แก้วโดยถาวร

นี้คือ ความสำเร็จเล็กๆ ครั้งแรกของผม










ผมใช้วิธีเดิม ขยายเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้น

ลดเหล้าให้น้อยลง เลิกกินเหล้า เลิกเที่ยว เก็บเงินเดือนละ 1000

ก้าวทีละน้อย แต่ก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ

ในที่สุด ผ่านไป 7 เดือน จากคนฟุ่มเฟือย

กลายเป็นคนอดออม ประหยัด มีเก็บเงินเดือนละ 5000 ได้สำเร็จ



เราเปลี่ยนนิสัยไม่ดีได้ โดยเปลี่ยนข้อมูลในจิตใต้สำนึกใหม่

ด้วยการจิตนาการคนที่คุณอยากเป็น และปฎิบัติตามนั้น


เมื่อเสริมด้วยการทำทีละอย่าง และเริ่มทีละน้อย


คุณก็สามารถเปลี่ยนนิสัยคุณได้ครับ



ขอบพระคุณครับ

สนับสนุนการเรียนรู้ Google Adword โดย SearchMonopoly

4 ความคิดเห็น:

  1. ผมเป็นคนสมาธิสั้นเหมือนกันครับ
    อาการเช่น เวลาที่ตั้งใจจะอ่านหนังสือหรือบทความที่มีสาระความรู้ต่างๆได้สักพัก
    จิตใจก็ชอบลอยไปคิดเรื่องอื่นอยู่เรื่อย
    พอรู้ตัวอีกทีก็อ่านผ่านไปแล้วแทบไม่ได้ความรู้อะไรเลย
    อยากรบกวนให้พี่ช่วยแนะนำวิธีแก้สมาธิสั้นของพี่หน่อยครับ
    ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ผมขออนุญาตเล่าประสบการณ์การเปลี่ยนนิสัยสมาธิสั้นของผม

      1. ตั้งเป้าหมายใหญ่ มีสมาธิอ่านหนังสือต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง
      2. เริ่มให้น้อย คือ อ่านหนังสือต่อเนื่อง 15 นาที
      3. ก่อนนอน จิตนาการว่า อ่านหนังสือมีสมาธิ 15 นาที ได้ความรู้มากมาย สุขใจเหมือนขึ้นสวรรค์
      4. ตื่นเช้า เขียนว่า จะอ่านหนังสือหุ้นให้มีสมาธิ 15 นาที มากกว่านี้คือกำไร แล้วอ่าน

      ผลคือ วันแรกก็ล้มเหลวแล้ว คือ สมาธิสั้นเหมือนเดิม
      วิธีแก้คือ อย่าหยุดครับ แค่ทำขั้นตอน 1-4 ต่อไป
      ผ่านไป 1 สัปดาห์ ผมมีสมาธิ 15 นาที ติดต่อกัน 3 วัน แล้วกลับไปสมาธิแตกซ่าน
      ผ่านไป 2 สัปดาห์ ทำได้ติดต่อกัน 7 วัน
      ผ่านไป 1 เดือน ผมทำได้ติดต่อกัน 15 วัน
      ผ่านไป 45 วัน อ่านหนังสือ 15 นาที ก็เป็นเรื่องปกติของผมไปแล้ว

      Key Success
      1. ทำ 1-4 ต่อเนื่อง
      2. ถ้าล้มเหลว อย่าตำหนิตัวเอง
      ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา ใครๆก็เป็นกัน
      สิ่งสำคัญคือฝึกฝนไปเรื่อยๆ
      เพราะวิธีนี้ไม่เสียเงิน อย่างมากคุณก็กลับไปที่เดิม
      จึงไม่มีอะไรเสียอยู่แล้ว มีแต่ดีขึ้น ก้าวหน้าขึ้น เจริญรุ่งเรืองขึ้น

      แต่เชื่อผมเถอะครับ ถ้าคุณทำ 1-4 ต่อเนื่องสัก 30 วัน
      จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างใดอย่างหนึ่งกับตัวเอง
      เพราะผมมีประสบการณ์มาแล้วหลายครั้ง
      และทำให้คุณมีกำลังใจก้าวต่อไป
      สุดท้ายคุณจะเปลี่ยนนิสัยได้อย่างแน่นอนครับ ^^

      ลบ
    2. ขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำ ผมจะนำไปปรับใช้ดูครับ

      ลบ

Google