คำตอบคือ
หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมในประเทศ (Domestic
Play)
เพราะได้ผลบุญจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของ
คสช.
กลุ่มแรกที่รับส้มหล่มเต็มๆคือ
กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง
จากนโยบายสร้างโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ
เช่น รถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ สนามบิน ท่าเรือน้ำลึก
ล้วนต้องใช้บริการผู้รับเหมารายใหญ่ 3 เจ้าทั้งสิ้น
และการที่ คสช ขุดผีโครงการ 2 ล้านล้านขึ้นมาทำ
สะท้อนว่า
ทั้งนักการเมืองและทหารเห็นตรงกันว่า จำเป็นเร่งด่วน
แถมช่วงนี้คสชเดินหน้าได้อย่างสะดวกโยธิน
เพราะคุมอำนาจเบ็ดเสร็จ
ไม่มีการฟ้องร้องกวนใจ
จึงมีโอกาสสูงมากที่ Mega project เหล่านี้จะเกิดขึ้นจริง
กลุ่มที่ 2 คือ
กลุ่มธนาคาร
เพราะการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่
กิจกรรมเศรษฐกิจ รวมถึงการกระตุ้นนโยบายจากคสช
ต้องใช้เงินกู้จากธนาคารมาหล่อเลี้ยงเพื่อให้เดินหน้า
ตอนนี้ธนาคารจึงมีลูกค้ารอกู้เงินยาวเป็นหางว่าว
โดยส่วนตัว แบงค์ที่ได้อานิสงค์มากที่สุด
คือแบงค์ที่เป็นรัฐวิสาหกิจ
เพราะคาดว่า คสช จะคืนความสุขให้ประชาชน
โดยเข็นโครงการประชานิยมออกมาบำเรออีกเพียบ
แบงค์รัฐวิสาหกิจจึงต้องเปิดท่อเงินกู้สินเชื่อภาครัฐเต็มที่
เพื่อให้มีเงินมาสนองนโยบาย
กำไรปี 57
จึงมีโอกาสเติบโตโดดเด่น
จากการเติบโตของสินเชื่อ
กลุ่มที่ 3 คือ
กลุ่มสื่อสาร
ซึ่งกลุ่มนี้แตกต่างกับ 2 กลุ่มที่แล้ว
เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนัก จากนโยบายคสช.
ซึ่งล่าสุดมีนโยบายแช่แข็งประมูล4G ส่งผลให้ราคาดิ่งฮวบ
แต่ส่วนตัวแล้ว เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น
ไม่ได้ทำให้พื้นฐานของบมจ.มือถือยักษ์ใหญ่แย่ลงแต่อย่างใด
เพราะโทรศัพท์กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่ทุกครัวเรือนต้องมี
จึงมีฐานลูกค้าและรายได้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก
แถมได้แรงหนุนเรื่องลดต้นทุน จากการเปลี่ยนมาใช้ระบบใบอนุญาต
จึงมีโอกาสที่กำไรโตต่อเนื่อง
เป็นโอกาสดีของคนเล่นรอบ ที่จะช้อนเก็บของดีราคาไม่แพง
เพื่อไปขายตอนสถานการณ์ปกติ จะมีโอกาสกำไรสูง
ได้รับผลดี แล้วซื้อไหม??
คำตอบคือ ดูก่อนว่า หุ้นที่คุณสนใจ ราคาเหมาะสมหรือไม่
เพราะแม้มีข่าวดี แต่หากซื้อหุ้นราคาแพงหูฉี่
อาจขาดทุนยับเยิน
ถ้าลงทุนแบบปัจจัยพื้นฐาน ต้องดูว่าราคาสูงเกินพื้นฐานไปไกลลิบหรือไม่
ถ้าซื้อด้วยกราฟ ต้องวิเคราะห์ว่า ผลตอบแทนต่อความเสี่ยงดีหรือเปล่า
โดยส่วนตัวอยากตั้งข้อสังเกตุว่า
กลุ่มรับเหมาก่อสร้างและกลุ่มธนาคาร
ราคาหุ้นเพิ่มขึ้นมาพอสมควรแล้ว
โดยช่วงที่เริ่มขึ้น คือช่วงวิกฤตของเมืองไทย
ช่วงนั้นข่าวร้ายการเมืองถล่มเป็นพายุ แต่หุ้น 2 กลุ่มนี้ขึ้นแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม
จนปัจจุบัน เมื่อข่าวและสถานการณ์แจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า
สองกลุ่มนี้บุญหล่นทับ
ราคาก็ขึ้นมาเยอะแล้ว จึงอาจเกิดสิ่งที่เรียกว่า
Sale on Fact
คือเมื่อข่าวดียืนยันชัดเจน หุ้นที่ได้ผลบุญกลับราคาลดลงอย่างหนัก
การซื้อหุ้นในสองกลุ่มนี้
จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
สรุป หุ้นรับเหมาก่อสร้างและธนาคาร
ได้รับผลบวกจากนโยบายของคสช
แต่ราคาขึ้นมาเยอะ ต้องพิจารณาซื้อแบบรอบคอบ
ส่วนสื่อสาร ได้รับผลกระทบระยะสั้น
แต่พื้นฐานแข็งแกร่ง
จึงเป็นโอกาสดีในการเข้าซื้อหุ้นในราคาเหมาะสม
ขอให้ทุกท่านร่ำรวยกันถ้วนหน้า
ขอบคุณครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น